ใช้เจลวิธีไล่นกพิราบเลยครับ

ใช้เจลวิธีไล่นกพิราบเลยครับ ทาง่าย สะดวก เห็นผล100% สั่งซื้อกันที่เซเว่นได้เลย 

คุณประโยชน์ ใช้ทาหรือฉีดตามจุดที่นกเกาะอาศัย แ
ละเมื่อนกบินเข้ามาสัมผัสถูกเจลจะเกิดความรำคาญ จนต้องขยับตัวหรือบินหนีออกไป ซึ่งในขณะนั้น เนื้อของเจลก็จะยืดออกเป็นเส้นบางๆ คล้ายใยแมงมุม ทำหน้าที่เข้าไปพันตามปีก และหาง ซึ่งเป็นการกำจัดจุดอ่อนของนก ส่งผลให้นกเสียสมดุลในการบินไประยะหนึ่ง ด้วยวิธีการนี้ นกจึงไม่สามารถปรับตัวให้กลับเข้ามาอยู่ได้ เป็นการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยและตัดวงจรชีวิตด้านที่อยู่ของนก ทำให้นกไม่มีที่อยู่อาศัยจนต้องย้ายไปอยู่แหล่งอื่นแทน (นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถนำไปใช้ไล่ ป้องกัน กำจด และแก้ปัญหาจาก:)รบกวนต่างๆ ได้ เช่น แมลง แมลงวัน แมลงสาบ มด ผึ้ง ต่อ แตน กระรอก แมว ลิง จิ้งจก ตุ๊กแต เป็นต้น)

คุณสมบัติ สีขาวใส ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นพิษ (food grade) ไม่นำไฟฟ้า สามารถใช้ได้กับทุกชนิดพื้นผิวทนต่อทุกๆ สภาพแวดล้อม ไม่ละลายน้ำ ไม่เยิ้มหยดในจุดที่มีความร้อนสูง (จุดหยด 283องศาเซลเซียส จุดติดไฟ 442องศาเซลเซียส)อุณหภูมิ ใช้งานปกติอยู่ที่ 0 - 100 องศาเซลเซียส อายุการใช้งานมากกว่า 2-3 ปี ขึ้นอยู่วิธีการใช้งานและสภาพแวดล้อม รวมถึงปริมาณนกในพื้นที่ และเมื่อนำไปใช้งานจะไม่ทำให้ทัศนียภาพของอาคารสถานต้องที่เสียไป

วิธีใช้งาน ให้ใช้เกียงโป๊วตักจากถังแกลลอนทายาวเป็นแนวเส้น ถ้าเป็นแบบหลอด ให้ประกอบกับปืนยิงซิลิโคน แล้วยิงออกมาเป็นเส้นตามยาวของพื้นที่ ถ้าพื้นที่กว้างไม่เกิน 10 ซม. ให้ทาหรือยิงเจลเป็นแนวตรงกลางของพื้นที่ 1 แนว แต้ถ้าพื้นที่กว้างกว่า 10 ซม. ให้เพิ่มจำนวนแนวเส้น โดยทุกๆ ความกว้าง 5 ซม. ให้เพิ่มขึ้น 1 แนว กรณีใช้งานภายนอกอาคารหรือพื้นผิวที่จะทาสามารถดูดซึมได้ เช่น พื้นปูน พื้นไม้ ควรใช้คู่กับรางพลาสติก SB-01-1 สำหรับทาเจล ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้มากกว่า 3 ปี ขณะเดียวกัน ในการใช้รางพลาสติก SB-01-1 ก็จะทำให้ง่ายในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่มาติดเจล และยังสามารถใช้เติมเจลได้อย่างซ้ำๆ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง นานหลายๆ ปี อีกด้วย

วิธีไล่นกพิราบ

  5.การวางยาเบื่อ หรือ ใช้หมากดิบ คลุกกับข้าวเปลือก ต้องใช้วิธีการสอดไส้ ซึ่งทำได้ครั้งเดียว ครั้งต่อไป นกจะรู้ทัน ไม่ยอมกินอีก และนกที่ตายอาจส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว(ไม่แนะนำ มันบาป)

      6. การใช้สิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น หุ่นจำลอง สิ่งสะท้อนแสงต่างๆ  คลื่นแสงต่างๆ ฯลฯ  หากไม่สามารถทำอันตรายกับนกได้โดยตรง มันจะเรียนรู้จนไม่กลัว และ เกิดความเคยชิน หากอยากใช้ให้ได้ผล ต้องลงทุนใช้แสงเลเซอร์ร้อน หรือเลเซอร์อนุภาพสูง (ใช้กันตามสนามบิน) ราคาไม่ต้องพูดถึง

       8. การปลูกต้นไม้ บังตามทิศทางที่กำหนด สามารถใช้ขับไล่นกพิราบได้ ส่วนนกชนิดอื่นๆ ไม่สามารถใช้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากนกพิราบมักจะหาที่อยู่ที่ปลอดภัย ฉะนั้น ในจุดที่มันไม่สามารถมองเห็น  เพื่อระแวดระวังภัยอันตรายจากภายนอกได้ มันจะไม่เลือกที่จะอยู่

       9. การใช้เอ็นไนล่อน  ขึงปิดกั้นตามบ่อกุ้ง บ่อปลา ควรกำหนดระยะห่างของเอ็นเทียบกับขนาดของลำตัวนก โดยขึงเอ็นปิดปากบ่อ เป็นช่องตารางสี่เหลี่ยม เพื่อป้องกันนกโฉบลงบ่อฯ  ให้มีระยะที่เหมาะสม จึงจะใช้ได้ผล

       10. วิธีการไล่นกแบบอื่นๆ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ใช้งาน เช่น การปรับสมดุลทางธรรมชาติ โดยการหาแหน่งที่อยู่ให้นกใหม่ แล้วทำการขับไล่ หรือ ควบคุมนกให้ไปอยู่ ในที่ๆ กำหนดไว้ และ ถ้าหากต้องการลดปริมาณนกในพื้นที่ อาจปล่อยตัวตะกวด หรือ งู  เพื่อให้ไปกินไข่นก เป็นการลดประชากรของนก ให้น้อยลง ไปเรื่อยๆ

     ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ นกพิราบที่อาศัย ในเมืองที่เจริญแล้ว มักจะพบเชื้อโรคไม่มากนักและสิ่งแวดล้อมที่มันอยู่อาศัยจะต่างกับประเทศที่ระบบสาธารณูปโภคไม่ค่อยดี จึงทำให้นกแต่ละที่ มีความอึด และทนต่อสภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค หรือการถูกขับไล่รบกวน ต่างกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นอุปกรณ์ หรือ เครื่องมือ ต่างๆ ที่ออกแบบใช้ในต่างประเทศ เมื่อนำมาใช้ในบ้านเราจึงมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เท่าไรนัก

วิธีไล่นกพิราบ

วิธีไล่นก
ที่จะให้ได้ผลนั้น ต้องใช้วิธีตัดวงจรชีวิตของนก ได้แก่ แหล่งน้ำ,อาหาร และที่อยู่อาศัยแต่เนื่องจากแหล่งน้ำและอาหารนั้น มักอยู่ตามแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงไม่สามารถเข้าไปจัดการหรือควบคุมได้โดยง่าย แต่แหล่งที่อยู่อาศัยของนกนั้น เราสามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเมื่อเราสามารถจัดการหรือทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของนกได้ ก็เป็นการทำลายวงจรชีวิตของนก ทำให้นกไม่ มีที่อยู่ที่อาศัยมีผลทำให้นกต้องย้ายออกนอกบริเวณพื้นที่ไปอยู่ที่อื่นแทน แต่ถึงกระนั้น หากเราใช้วิธีในการไล่นกที่ไม่ถูกต้อง หรือ ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลทำให้นกพยายามทำลาย ต่อสู้ ดิ้นรน เรียนรู้ และ ปรับตัว หรือ ไม่ก็พัฒนา จนกลับมาอยู่อาศัยได้อย่างเดิม ตัวอย่างวิธีการไล่นกแบบต่างๆ ที่มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย และมีแนวในการแก้ไขได้ดังนี้ คือ[/size]


1. วิธีการปิดกั้นด้วยตาข่าย, ตะแกรง หรือขึงเอ็นกีดขวางนก ถ้าจะให้ได้ผล ต้องปิดกั้นในทิศทาง และมุมองศาใช้งานเฉพาะที่นกไม่สามารถเกาะจับได้ ไม่เช่นนั้น นกก็จะทำลาย จนเข้ามาอยู่อาศัยได้ หรือไม่ก็ถ่ายมูลลงมาได้เช่นเดิม

2. วิธีการใช้กลิ่นไล่นก แบบต่างๆ นกไม่ชอบในการไล่นก เช่น กลิ่นสกัดจากสารในเม็ดองุ่น หรือใช้เคมีที่มีผลโดยตรงกับ เยื่อบุหลอดลมของนกได้แก่ การบูร, พิมเสน, แน็พเธอร์ลีน (ลูกเหม็น) ฯลฯ ซึ่งทำให้นกเกิดการระคายเคืองและมีผลต่อระบบประสาทของนก ทำให้นกคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนศีรษะ มักจะใช้ได้เพียงระยะหนึ่ง จึงควรใช้ซ้ำๆ และหากนกปรับตัวและชิน อาจต้องปรับความเข้มข้น หรือ เปลี่ยนกลิ่น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผ่านกระบวนการผลิตด้วยระบบนาโนเทคเทค จึงใช้พ่นเพียงครั้งเดียวอยู่ได้เป็นปี

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

โดยปกตินกพิราบ 1 คู่ จะแพร่พันธุ์ภายใน 1 ปี ได้รุ่นลูกรุ่นหลานประมาณ 40 ตัว แต่ส่วนใหญ่มักจะตาย เนื่องจาก ภายในตัวนกมักจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ตัวที่อ่อนแอ จึงตายลงดังนั้นตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ไดจึงเป็นตัวพาหะอย่างดีเพราะมัน สามารถทนต่อโรคได้ดี และมันก็พยายามหาทางเอาชีวิตรอด ด้วยการหาแหล่งที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยสำหรับตัวมัน จึงมักจะมาอาศัยตาม สิ่งก่อสร้างต่างๆ อยู่ร่วมกับมนุษย์ ดังนั้น ในบริเวณที่มีนกอาศัยอยู่ ก็ย่อมเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ เช่นกัน

โรคที่มาจากนกพิราบ

 ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ นกพิราบที่อาศัย ในเมืองที่เจริญแล้ว มักจะพบเชื้อโรคไม่มากนักและสิ่งแวดล้อมที่มันอยู่อาศัยจะต่างกับประเทศที่ระบบสาธารณูปโภคไม่ค่อยดี จึงทำให้นกแต่ละที่ มีความอึด และทนต่อสภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค หรือการถูกขับไล่รบกวน ต่างกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นอุปกรณ์ หรือ เครื่องมือ ต่างๆ ที่ออกแบบใช้ในต่างประเทศ เมื่อนำมาใช้ในบ้านเราจึงมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เท่าไรนั

      ตัวอย่างโรคภัย ที่เกิดจากนกเป็นพาหะเช่น ไวรัสตับอักเสบบีเยื่อหุ้นสมองอักเสบปอดอักเสบเฉียบพลันปอดบวมไข้กาฬหลังแอ่น ไข้หวัดนก รวมถึง แบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ เชื้อรา ตัวไรนก พยาธิ เป็นต้น  ซึ่งเชื้อเหล่านี้  มักจะอยู่ในบริเวณที่มีนกอาศัยอยู่หากวันหนึ่งวันใด ร่างกายของเราอ่อนแอลงเมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราติดเชื้อได้โดยง่าย และก็จะแสดงอาการออกมา ทำให้เราเจ็บป่วย ซึ่งโรคส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงนี้   มักจะเป็นแล้วรักษาไม่หาย หรือ บางโรคอาจตายโดยเฉียบพลัน ไม่อาจรักษาได้ทันดังนั้น   จึงควรหาทางระวังป้องกัน  ด้วยการทำลายแหล่งที่อยู่ที่อาศัยของนก รวมถึงแหล่งแพร่เชื้อต่างๆ  และในจุดที่แสงแดดไม่สามารถส่องถึง  ควรฉีดพ่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค  โดยหาซื้อได้ทั่วไป  เช่น น้ำยาเดสตอล , มาสเตอร์คลีน  ผสมกับน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุไว้หรือ หากไม่สามารถหาได้อาจใช้ผงซักฟอกผสมกับน้ำ ใช้ราดแทนชั่วคราวได้

    ข้อแนะนำเพิ่มเติม โดยปกตินกพิราบ 1 คู่ จะแพร่พันธุ์ภายใน 1 ปี ได้รุ่นลูกรุ่นหลานประมาณ 40 ตัว แต่ส่วนใหญ่มักจะตาย เนื่องจาก ภายในตัวนกมักจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ตัวที่อ่อนแอ จึงตายลงดังนั้นตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ไดจึงเป็นตัวพาหะอย่างดีเพราะมัน สามารถทนต่อโรคได้ดี และมันก็พยายามหาทางเอาชีวิตรอด ด้วยการหาแหล่งที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยสำหรับตัวมัน จึงมักจะมาอาศัยตาม สิ่งก่อสร้างต่างๆ อยู่ร่วมกับมนุษย์ ดังนั้น ในบริเวณที่มีนกอาศัยอยู่ ก็ย่อมเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ เช่นกัน

วิธีไล่นกพิราบ โดยใช้สายรุ้งที่เราติดตกแต่งช่วงปีใหม่

วิธีนี้แล้วได้ผลคือ ใช้สายรุ้งที่เราติดตกแต่งช่วงปีใหม่


เอาแบบสีเงินๆเงาๆประมาณนั้นค่ะ มาพันๆรอบๆราวระเบียงไว้เพื่อให้นกเข้าใจว่าเป็นลวดหนามค่ะ 
 พันไว้ตรงที่นกชอบมาเกาะก็ได้ค่ะ 
ค่าใช้จ่ายไม่สูง แต่ได้ผลดีเกินคุ้มค่ะ ใครจะลองดูก็ได้นะคะ ไม่เสียหลาย
และแสงก็ไม่สะท้อนให้รบกวนคนอื่นด้วยค่ะ ไม่มีเสียงให้ข้างห้องรำคาญ วิธีไล่นกพิราบ วิธีไล่นกพิราบ

ปัญหาจากนกพิราบ

ปัญหาจากนก
1. เป็นพาหะนำโรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัดนก, กาหลังแอ่น, เชื้อรา ฯลฯ
2. ทำความเสียหายให้กับโครงสร้างอาคาร
3. ทำลายทัศนีย์ภาพของสิ่งปลูกสร้าง
4. สร้างความเสียหายต่อสินค้าที่จะส่งออก

วิธีไล่นกพิราบ ป้องกันนก

วิธีไล่นก ไล่นกพิราบ ป้องกันนก กำจัดนก เครื่องไล่นก ตาข่ายกันนก ไล่นก
วิธีไล่นก ไล่นกพิราบ
วิธีไล่นกพิราบ  ที่จะให้ได้ผลนั้น ต้องใช้วิธีตัดวงจรชีวิตของนก ได้แก่ แหล่งน้ำ,อาหาร และที่อยู่อาศัยแต่เนื่องจากแหล่งน้ำและอาหารนั้น มักอยู่ตามแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  จึงไม่สามารถเข้าไปจัดการหรือควบคุมได้โดยง่าย แต่แหล่งที่อยู่อาศัยของนกนั้น เราสามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเมื่อเราสามารถจัดการหรือทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของนกได้ ก็เป็นการทำลายวงจรชีวิตของนก ทำให้นกไม่ มีที่อยู่ที่อาศัยมีผลทำให้นกต้องย้ายออกนอกบริเวณพื้นที่ไปอยู่ที่อื่นแทน  แต่ถึงกระนั้น หากเราใช้วิธีในการไล่นกที่ไม่ถูกต้อง หรือ ไม่เหมาะสม   ก็อาจส่งผลทำให้นกพยายามทำลาย  ต่อสู้  ดิ้นรน  เรียนรู้ และ ปรับตัว หรือ ไม่ก็พัฒนา  จนกลับมาอยู่อาศัยได้อย่างเดิม ตัวอย่างวิธีการไล่นกแบบต่างๆ ที่มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย และมีแนวในการแก้ไขได้ดังนี้ คือ

     1. วิธีการปิดกั้นด้วยตาข่าย, ตะแกรง หรือขึงเอ็นกีดขวางนก ถ้าจะให้ได้ผล ต้องปิดกั้นในทิศทาง และมุมองศาใช้งานเฉพาะที่นกไม่สามารถเกาะจับได้  ไม่เช่นนั้น นกก็จะทำลาย  จนเข้ามาอยู่อาศัยได้ หรือไม่ก็ถ่ายมูลลงมาได้เช่นเดิม

     2. วิธีการใช้เสียงไล่นก แบบต่างๆ เช่น ปืน,ประทัด,ระเบิด ฯลฯ  ซึ่งมีอนุภาพทำให้เกิดเสียงดังและเกิดแรงอัดอากาศจนสั่นสะเทือน จะใช้ได้ผลในชั่วขณะ เมื่อทำบ่อยๆ นกก็จะเกิดความเคยชิน และปรับตัวได้

     3. วิธีการใช้กลิ่นไล่นก แบบต่างๆ  ที่นกไม่ชอบในการไล่นก เช่น กลิ่นสกัดจากสารในเม็ดองุ่น หรือใช้เคมีที่มีผลโดยตรงกับ เยื่อบุหลอดลมของนกได้แก่ การบูร, พิมเสน, แน็พเธอร์ลีน (ลูกเหม็น) ฯลฯ  ซึ่งทำให้นกเกิดการระคายเคืองและมีผลต่อระบบประสาทของนก ทำให้นกคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนศีรษะ มักจะใช้ได้เพียงระยะหนึ่ง จึงควรใช้ซ้ำๆ และหากนกปรับตัวและชิน อาจต้องปรับความเข้มข้น หรือ เปลี่ยนกลิ่น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผ่านกระบวนการผลิตด้วยระบบนาโนเทคเทค จึงใช้พ่นเพียงครั้งเดียวอยู่ได้เป็นปี

      4.วิธีการใช้กาวดักหนู เรซิ่น จารบี หรืออื่นๆ ที่มีลักษณะเหนียวๆ มาใช้ทาป้องกันนก นกจะเรียนรู้และนำกิ่งไม้มาทับหรือถ่ายมูลลงมาทับ  แล้วมันก็มาอยู่อาศัยได้เช่นเดิม ขณะเดียวกันกาวหรือสิ่งที่กล่าวในตอนต้น มักจะไหลเยิ้ม แห้งตัว และติดแข็ง ทำให้เกิดความสกปรกเลอะเทอะ ยากต่อการทำความสะอาด ดังนั้น  หากต้องการใช้วิธีการนี้  (เพราะเป็นวิธีที่ง่าย) ควรใช้เจลไล่นก ชนิดมีใย โดยใยจะทำหน้าที่พันตามปีกและหาง ในขณะที่นกเข้ามาสัมผัส ทำให้นกเสียสมดุลในการบิน หากยังดื้อหรือพยายามคาบกิ่งไม้มาทับก็จะถูกเส้นใยพันซ้ำๆ จนบินไม่ได้ล่วงลงพื้น (ต้องจับมาเช็ดล้าง ด้วยน้ำมันพืช) จึงทำให้นกไม่สามารถทำลายหรือเรียนรู้ และปรับตัวได้เหมาะใช้กับพื้นที่โล่งๆ ตามจุดที่นกไม่ผูกพัน เช่น สันหลังคา หากนำมาใช้ตามซอกหลืบ หรือ จุดที่นกผูกพัน นกอาจปรับตัว โดยคาบกิ่งไม้ หรือเศษวัสดุอื่นๆ เข้ามาทับเพื่อทำรังได้

วิธีไล่นกพิราบ"ภูมิปัญญาชาวบ้าน"


วิธีไล่นกพิราบ ปัญหาอาคารบ้านเรือนไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่  ที่มักจะหลีกหนีไม่พ้น คือ  การเข้ามารบกวนของนกชนิดต่างๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วนกพิราบ  ที่เข้ามาอยู่อาศัยทำรังออกลูกออกหลานจนเต็มอาคารไปหมด  ก่อความรำคาญและนำมาซึ่งเชื้อโรคชนิดต่างๆ  ที่เกิดจากการถ่ายมูลนกจำนวนมาก  ทั่วบริเวณต่างๆ   การกำจัดนกพิราบอย่างถาวรด้วยวิธีการต่างๆ  วิธีไล่นกพิราบ

วิธีไล่นกพิราบ การขึงลวดเหนือคานเหล็กประมาณ 3 นิ้ว ที่นกพิราบหรือนกอื่นๆ  เคยใช้เป็นที่เกาะหรือทำรังอยู่อาศัย  จะทำให้นกพิราบไม่สามารถเกาะคานต่างๆ เหล่านั้นได้  หลักการดังกล่าวนี้นกชนิดต่างๆ ยังสามารถบินเข้าออกอาคารได้ แต่ไม่สามารถเกาะได้  นับได้ว่าเป็นวิธีการไล่นกให้ออกไปจากอาคารได้ในที่สุด  นอกจากจะเป็นวิธีการไล่นกอย่างถาวรแล้ว  ยังเป็นวิธีการที่ไม่ต้องฆ่านกพิราบหรือนกอื่นๆ ให้ตายไปด้วยวิธีการต่างๆ  อีกด้วย

วิธีไล่นกพิราบ

คลังบทความของบล็อก